10 เทรนด์การแต่งบ้านยอดนิยมในยุคปี 2021

เรื่องของ “เทรนด์” หรือ “ความนิยม” คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปแทบจะตลอดเวลา สำหรับเทรนด์การแต่งบ้านเองก็เช่นกัน  เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2021 ปีสำคัญที่หลายสิ่งหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่ารูปแบบการใช้ชีวิตที่คนนิยมอยู่บ้านกันมากขึ้น รวมไปถึงวิธีการทำงานที่เน้นการทำงานจากระยะไกลหรือทำงานผ่านช่องทางออนไลน์ เราจึงปฏิเสธไม่ได้รูปแบบชีวิตที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ได้ส่งผลต่อสไตล์การแต่งบ้านและการออกแบบภายในไปโดยสิ้นเชิง  เพื่อช่วยให้คุณก้าวทันตามเทรนด์โลก เราลองมาดูกันดีกว่าว่าเทรนด์การแต่งบ้านยอดนิยมแห่งยุคนี้ มีเทรนด์ไหนที่ดูสวยงาม น่าสนใจกันบ้างนะ  1 — การแต่งบ้านที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่กลางแจ้งการออกแบบบ้านเพื่อให้มีพื้นที่กลางแจ้งเพิ่มมากขึ้นได้กลับมาเป็นที่สนใจกันอีกครั้ง โดยเฉพาะการสร้างเฉลียง หรือชานบ้านเพิ่มเติมออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งสาเหตุที่การออกแบบบ้านสไตล์นี้ได้กลับมาเป็นที่นิยมกันในปีนี้ก็เข้าใจได้ว่าสถาปนิกต้องการให้เจ้าบ้านและสมาชิกได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากขึ้นเมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นเวลานานกว่าแต่ก่อนนั่นเอง  2 — การแต่งบ้านด้วยวัสดุจากธรรมชาตินอกจากจะเป็นช่วงปีที่โลกต้องพบเจอกับโรคระบาดแล้วนั้น ปี 2020–2021 โลกเรายังประสบกับปัญหาโลกร้อนมากขึ้นอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่เทรนด์การแต่งบ้านแนวรักษ์โลกจะเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น เจ้าของบ้านและนักออกแบบหลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการใช้วัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ไม้ หิน แก้ว กระจก โลหะ และผ้าธรรมชาติ รวมไปถึงการใช้วัสดุรีไซเคิลที่ดีต่อโลกแทนการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่ต้องผลิตขึ้นมาใหม่  3 — การแต่งบ้านสไตล์มินิมัลเทรนด์การแต่งบ้านสไตล์มินิมัล หรือการแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์จำนวนน้อยชิ้น ยังคงได้รับความนิยมอยู่ เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่ยังสามารถตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้ดี ทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็น ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถทำความสะอาดบ้านได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังให้ความรู้สึกโล่งสบายตา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นเวลานาน  4 — การแต่งบ้านด้วยต้นไม้เมื่อเราจำเป็นต้องใช้ชีวิตในบ้านกันมากขึ้น การเพิ่มความสดใสและชีวิตชีวาให้ตัวบ้านด้วย “ต้นไม้” จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาความน่าเบื่อหน่ายน่าหดหู่ลงไปได้มาก ในปี 2021 นี้ เทรนด์การเลือกซื้อต้นไม้กระถาง ต้นไม้ฟอกอากาศชนิดต่าง ๆ เพื่อตั้งตามจุดต่างๆ ในบ้านจึงยังคงเป็นเทรนด์ฮิตติดลมบนไม่เสื่อมคลาย  5 — การแต่งบ้านโดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ทำงานเมื่อ …
Continue reading 10 เทรนด์การแต่งบ้านยอดนิยมในยุคปี 2021

เทคนิคแต่งบ้านให้ดูกว้าง เรียบโล่ง สบายตา ไม่อึดอัด

การตกแต่งบ้านให้กว้าง เป็นอีกหนึ่งทริคที่คนแต่งบ้านต้องการ เพื่อให้บ้านดูโปร่งโล่งตามากกว่าเดิม และสามารถเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านได้ในบางกรณี สามารถทำได้ง่ายๆ ในไม่กี่วิธี ก็ช่วยเปลี่ยนมุมมองได้อย่างคาดไม่ถึง ครั้งนี้ทางบทความก็ได้รวบรวมมาให้แล้ว ได้แก่  1.ติดกระจกสะท้อน เทคนิคการติดกระจกสะท้อนภายในบ้าน เป็นเทคนิคเบสิคที่ช่วยให้บ้านนั้นกว้างขึ้น เป็นการสร้างภาพลวงตา โดยการให้กระจกทำการสะท้อนมุมนั้นๆ ของบ้านให้ดูกว้างออกไปอีก แม้ความจริงแล้ว พื้นที่บริเวณจะเท่าเดิม แต่ทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้น ลดความรู้สึกอึดอัดลงไปได้บ้าง แต่เรื่องที่ต้องคำนึงก็คือการทำความสะอาด เพราะกระจกเป็นวัตถุที่ต้องคอยทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นหากจะติดกระจกภายในบ้าน ก็ควรเลือกมุมและใช้ปริมาณของกระจกพอดีๆ เอาที่สามารถดูแลไหว โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลา  2.ประดับด้วยกระจกโปร่งใส นอกจากกระจกสะท้อนที่ใช้ติดตั้งภายในบ้านแล้ว การใช้กระจกแบบโปร่งใส ก็ช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้นได้ วิธีนี้แตกต่างจากวิธีแรก โดยวิธีแรกจะทำให้มุมนั้นๆ ที่ถูกสะท้อนในกระจกดูกว้างออกไป ช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้น แต่วิธีการติดตั้งกระจกโปร่งใส จะทำให้บ้านไม่ทึบ ดูโปร่ง ขยายมุมมองให้สามารถมองออกไปภายนอกได้ ทำให้รู้สึกถึงความกว้างขวางมากกว่าบ้านแบบทึบ แต่ปัญหาสำคัญยังอยู่ที่การทำความสะอาด เพราะไม่ว่าจะกระจกสะท้อน หรือกระจกโปร่งใส ก็ล้วนขุ่นมัว ต้องหมั่นเช็ดถูอยู่เสมอ  3.ประตูเลื่อน ประตูเลื่อนช่วยให้บ้านกว้างขวางกว่าประตูบานพับ เพราะประตูบานเลื่อนช่วยให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์กินเนื้อที่น้อยกว่า ประตูบ้านพับในขณะเปิดเข้าเปิดออกจะต้องใช้พื้นที่เป็นครึ่งวงกลม ทำให้ในรัศมีนั้นไม่สามารถวางของขวางได้ เพราะจะทำให้เปิดประตูลำบาก หรือไม่สามารถเปิดประตูได้ ขณะที่ประตูบานเลื่อน ไม่ต้องใช้พื้นที่เลย จึงทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายกว่า ช่วยบริหารพื้นที่ภายในบ้านให้ดูกว้างขึ้น 4.ตกแต่งด้วยชั้นลอยสูงถึงเพดาน …
Continue reading เทคนิคแต่งบ้านให้ดูกว้าง เรียบโล่ง สบายตา ไม่อึดอัด

อัพเดทไว้ ไม่ตกเทรนด์ วิธีการแต่งบ้าน สไตล์ Minimal

หากเอ่ยถึงเทรนด์การแต่งบ้านที่มาแรงที่สุดตอนนี้ ก็คงหนี้ไม่พ้น เทรนด์น้อยแต่มาก อย่างเทรนด์มินิมัล (minimal style) นั่นเอง  เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์การแต่งบ้านแห่งยุคสมัยเลยทีเดียว เพราะฮิตกันไปทั่วโลกแต่งตามกันไปทุกที่ไม่ว่าบ้าน ออฟฟิศ หรือแม้แต่ตามสถานที่สำคัญอย่างโรงเรียน หรือพิพิธภัณฑ์ โดยสาเหตุที่ฮิตกันขนาดนี้ก็ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะการแต่งบ้านรูปแบบมินิมัลที่ว่านอกจากจะได้บ้านลุคสวยและสไตล์มินิมัลที่อินเทรนด์แล้วนั้น บ้านมินิมัลยังแลดูเรียบร้อย สบายตา อีกทั้งไม่ต้องพึ่งพาเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้านราคาแพง เรียกได้ว่า งบน้อย แต่ก็แต่งให้สวยได้เต็มร้อยเลยค่ะ  นอกจากนี้ ในทางจิตวิทยานั้น การแต่งบ้านในรูปแบบน้อยแต่มากที่ว่ายังมีประโยชน์โดยสามารถช่วยเยียวยาจิตใจ โดยเฉพาะแก่หนุ่มสาวชาวเมืองทั้งหลาย เพราะบ้านที่แต่งแบบเรียบง่าย แลดูเรียบร้อย ไร้ซึ่งสิ่งของมากมาย สามารถใช้เป็นแหล่งพักผ่อนทั้งทางกายและใจให้กับคนที่ต้องการหลีกหนีการใช้ชีวิตที่วุ่นวายในแต่ละวัน กลับสู่บ้านอันสงบสุข ได้นั่นเอง   ความหมายของ มินิมัล การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมัล มีที่มาตั้งแต่สมัย ปีค.ศ. 1960 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเคลื่อนไหวทางศิลปะ ที่เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก สไตล์ของมินิมัลจึงมุ่งใช้สีโทนกลาง (neutral color) ที่สบายตา และเส้นตรงนั่นเองค่ะ  วิธี และขั้นตอนในการแต่งบ้านแบบมินิมัล  1. จัดการข้าวของที่รกรุงรัง  หัวใจหลักของมินิมัลสไตล์ คือความเรียบร้อย แบบของน้อยชิ้นเข้าไว้ ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณต้องจัดการ หากอยากแต่งบ้านสไตล์มินิมัล คือการกำจัดข้าวของที่รกรุงรัง บรรดาสิ่งของที่ไม่จำเป็นสำหรับการใช้งาน หรือตั้งโชว์ให้เห็นอยู่ตลอดเวลา …
Continue reading อัพเดทไว้ ไม่ตกเทรนด์ วิธีการแต่งบ้าน สไตล์ Minimal

ทริคแต่งบ้าน ฉบับคนของเยอะแต่ห้องน้อย

สำหรับบ้านไหนที่มีของจำเป็นเยอะ แต่ห้องน้อยหรือพื้นที่ภายในบ้านไม่เพียงพอต่อการจัดเก็บสิ่งของเหล่านั้น วิธีการที่ดีที่สุด คือการเก็บบ้านแล้วคัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นทิ้งลงขยะไป แต่บางครั้งถึงแม้จะทิ้งไปเยอะแล้วก็ตาม แต่ของจำเป็นต้องเก็บไว้ก็ยังมีเหลืออยู่จำนวนมาก 1.บิวอินท์ตู้รองรับการจัดเก็บ ทริคแต่งบ้านทริคแรกขอแนะนำการบิวอินท์ตู้ เพื่อรองรับการจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ บ้านใครห้องน้อย แค่ห้องนอนก็จะไม่พอคนอยู่แล้ว ถ้าต้องมาแบ่งห้องให้เป็นห้องเก็บของอีก เห็นทีจะไม่ไหว ห้องเก็บของที่มีอยู่ก็อาจเล็กเกินไป ไม่เพียงพอกับข้าวของที่มี แนะนำให้เอาข้าวของเก็บไว้ตามห้องต่างๆ อาจจะเป็นห้องนอนก็ได้ หากบ้านมีทั้งหมด 2 ห้องนอน ก็เอาของกระจายไปเก็บไว้ในห้องให้ครบ 2 ห้องนอนเลย ไม่ใช่ว่าจะแนะนำให้เอาของไปกองๆ ไว้ให้มันรกห้องต่างๆ แต่จะแนะนำว่าให้บิวอินท์ตู้เอาไว้ตามห้องต่างๆ  รวมถึงห้องโถง ห้องนั่งเล่น เพื่อให้เพียงพอต่อการจัดเก็บสิ่งของ คราวนี้จะเอาของไปเก็บไว้ในห้องไหนก็ได้ โดยการแอบซ่อนเอาไว้ในตู้ที่บิวอินท์ไว้รองรับ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ภายในบ้านมีที่เก็บของมากขึ้นกว่าเดิม แม้ห้องจะน้อยไม่เพียงพอต่อการเก็บของ แต่การสั่งทำตู้เก็บของไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะการบิวอินท์ติดกับผนัง ที่สามารถใช้พื้นที่บนฝาผนังได้ตามความสูงของผนังที่มี ยิ่งช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้น 2.เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้เก็บของได้ อีกหนึ่งทริคแต่งบ้าน หากภายในบ้านมีห้องน้อยหรือพื้นที่เก็บของไม่เพียงพอ แนะนำให้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเก็บของได้มากๆ ไม่ว่าจะเลือกชิ้นไหนก็ให้เน้นที่ “มีตู้มีลิ้นชัก” ในตัว เพื่อให้จัดเก็บสิ่งของได้ เพราะเฟอร์นิเจอร์เดี๋ยวนี้ มีดีไซน์หลากหลาย บางชิ้นเน้นโปร่ง เพื่อให้ดูโล่ง แต่บางครั้งเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโปร่งก็ประโยชน์ใช้สอยน้อย ไม่รองรับต่อการจัดเก็บสิ่งของ หลายครั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ดูโปร่ง กลายเป็นที่วางของแบบไม่เป็นระเบียบ เช่น …
Continue reading ทริคแต่งบ้าน ฉบับคนของเยอะแต่ห้องน้อย

แชร์ทริคแต่งบ้านให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ รับกระแส Work from home

หลังสถานการณ์โรคระบาด ทำให้เกิด New normal ขึ้น หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปในเรื่องของการใช้ชีวิต อย่างเช่นในเรื่องของการ Work from home ที่จากสถานการณ์ Covid-19 ทำให้หลายๆ องค์กรต้องปรับเปลี่ยนการทำงานไปในช่วงเวลาหนึ่ง บางแห่งพบว่าการ Work from home สามารถไปได้ดี จึงมีนโยบายที่จะทำต่อเนื่องแม้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ก็เลยอยากจะแชร์ร์ทริคแต่งบ้านให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ เพื่อพนักงานทั้งหลายที่ต้องทำงานที่บ้านอย่างลงตัว 1.เลือกมุมบ้านเพื่อแปลงเป็นมุมทำงาน ก่อนอื่นสำรวจพื้นที่ภายในบ้านเสียก่อน ว่ามุมไหนที่เหมาะสำหรับการทำงานมากที่สุด แนะนำให้มุมสงบและเงียบ ที่สำคัญต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับโต๊ะทำงาน และเครื่องอำนวยความสะดวกอื่นๆ ไม่ต้องยึดมุมที่กว้างขวางมาก เช่นโถงตรงกลางบ้านอาจไม่เหมาะ เพราะคนเดินผ่านไปมา ทั้งตัวคนทำงานเองก็อาจขวางทางเดิน และสิ่งรอบข้างที่ไม่สงบก็อาจรบกวนคนทำงานได้  หากไม่มีมุมเงียบจริงๆ ก็คงต้องเป็นห้องนอนส่วนตัว หรือถ้าหากมีห้องเหลือๆ เช่น บางบ้านออกแบบมุมห้องครัวมาให้ แต่บ้านหลังนั้นต่อเติมหลังบ้านให้เป็นห้องครัวแทน ก็อาจยึดมุมห้องครัวเดิมมาเป็นมุมทำงานก็น่าสนใจไม่เบา 2.เริ่มจัดตกแต่ง เมื่อหามุมทำงานได้แล้วก็เริ่มลงมือจัดตกแต่งแปลงให้เป็นโต๊ะทำงาน หากทำงานในห้องนอน ก็อาจมีมุมหนึ่งของห้องที่เป็นมุมทำงานโดยเฉพาะ เช่น หากมุมขวาของห้องเป็นเตียงนอน มุมซ้ายสุดของห้องก็อาจเป็นโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้เสร็จสรรพ มีที่เก็บเอกสารพร้อม เพื่อให้ Flow การทำงานไม่สะดุด ไม่ใช่ว่าถ้าจะหาเอกสารทีจะต้องลุกไปค้นในตู้ หรือใต้เตียงให้มันลำบาก เช่นกันสำหรับมุมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ห้องนอน …
Continue reading แชร์ทริคแต่งบ้านให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ รับกระแส Work from home